วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แหล่งทรัพยากร ของUNIX

ภาพนิ่ง 1รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLUnix เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กับแพร่หลายบนระบบขนาดใหญ่ ... Unix เป็นระบบ ปฏิบัติการแบบ Multi User และMulti Tasking ซึ่งแตกต่างจาก Window ...www.csweb.sru.ac.th/~seksan/Unix.ppt - หน้าที่คล้ายกัน

อานันท์ สีห์พิทักษ์เกียรติรูปแบบไฟล์: PDF/Adobe Acrobat - แสดงเป็นแบบ HTMLtemp: directory. unix.ppt: data. unixbig.ppt: data. vbrun300.dl_: data ..... - rwxr-xr-x. 1 arnan. users 45270 Jan 11 13:01 unix.ppt* ...www.spu.ac.th/forum/vishakan/unix.pdf - หน้าที่คล้ายกันUNIXรูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLAT&T แจก Code ของ UNIX ไปให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อหวังให้เป็นที่นิยมมากขึ้น แต่กลับทำให้เกิด UNIX ตัวใหม่ขึ้นมาเรียกว่า BSD UNIX (Berkeley Software ...www.compsci.buu.ac.th/~jakkaman/C_Programming/week01(18%20June%2001)/Unix.ppt - หน้าที่คล้ายกันSlide 1รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLระบบปฏิบัติการ UNIX มีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการวิจัย Bell ... 1978 Version 7 ก็ ถูกพัฒนาออกมา ซึ่งเป็นต้นแบบของระบบ UNIX รุ่นใหม่ๆ หลังจากนั้นAT&T ...202.28.94.51/users/apisak/322361/2548/Test_Assign_Page.files/Data_REPORT/Group11_OS_Support/group11.ppt - หน้าที่คล้ายกันUnix-doc <>UNIX อนุญาตให้ผู้ใช้ รู้การทำงานของซีพียูว่ามีงานอะไรวิ่งอยู่ งานเหล่านี้ถูก เรียกว่า โปรเซส (process) นี่เป็นข้อดีที่UNIX มีเหนือวินโดส์ 95 และ ...wiki.nectec.or.th/ntl/Main/Unix-doc - 26k - หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน
ภาพนิ่ง 1รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - แสดงเป็นแบบ HTMLยูนิกซ์ (Unix แต่ชื่อตามเครื่องหมายการค้าคือ UNIX)เป็นระบบปฏิบัติการ ... 1982 AT&T นำยูนิกซ์ 7 มาพัฒนาและออกขายในชื่อ Unix System III แต่บริษัทลูก ...eclassnet.kku.ac.th/etraining/file/1220294266-unix.ppt - หน้าที่คล้ายกัน

ตอบคำถาม ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ unix

ตอบคำถามความรู้เบื้องต้นเกื่ยวกับ unix

1.ความเป็นมาของ UNIX
ระบบปฏิบัติการ Unix
ระบบปฏิบัติการ UNIX มีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการวิจัย Bell ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Ken Thompson และ Dennis Ritchie ปี พ.ศ. 2512 โดยมีที่มาคร่าวๆ คือสถาบัน MIT (Massascusetts Institute of Technology), ห้องปฏิบัติการวิจัย AT&T Bell Labs และบริษัท GE (General Electric) ร่วมกันพัฒนาโครงการ Multics ในปี 1960 เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับ Mainframe Computer รุ่น GE 635 แต่เกิดปัญหาหลายประการ จนกระทั่ง Bell Labs ได้ลาออกจากโครงการ แต่โครงการก็ยังดำเนินการต่อโดย Ken Thompson และ Dennis Ritchie ซึ่งทำงานกับ Bell Labs พร้อมๆ กันไปด้วยต่อมา Ken & Dennis ได้ร่วมกันพัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่ เพื่อทำงานบนเครื่อง PDP-7 และใช้ชื่อว่าระบบปฏิบัติการ UNIX เพื่อให้ออกเสียงใกล้เคียงกับระบบ Multics ดังนั้นต้นกำเนิดของ UNIX ก็คือ Multics นั่นเอง หลังจากนั้นทั้งสองได้พัฒนามาเป็น Version 2 เพื่อทำงานบนเครื่องรุ่น PDP-11/20 โดยใช้ภาษา Assembly และได้พัฒนาปรับปรุงด้วยภาษา C และเผยแพร่ไปสู่มหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย Version 6 ในปี ค.ศ. 1976ในปี ค.ศ. 1978 Version 7 ก็ถูกพัฒนาออกมา ซึ่งเป็นต้นแบบของระบบ UNIX รุ่นใหม่ๆ หลังจากนั้น AT&T ซึ่งเป็นองค์กรแม่ของ Bell Labs ได้เป็นผู้รับผิดชอบ และควบคุมการออกตัวระบบปฏิบัติการ UNIX ดังนั้น UNIX จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ แทนที่จะเป็นเครื่องมือวิจัย AT&T ได้พัฒนา UNIX ออกมาใช้งานภายนอก ภายใต้ชื่อ System III ในปี 1982 และปี 1983 ก็ออก System V และพัฒนามาเรื่อยๆ จนได้รับความนิยมในปัจจุบัน
http://learners.in.th/blog/utraaom/34131

2.คุณสมบัติ UNIX
•Software Tool–โปรแกรมบน UNIX จะแบ่งตัวเองออกเป็นส่วนย่อยๆ และสามารถใช้งานส่วนย่อยเหล่านั้นร่วมกัน ระหว่างหลายๆ โปรแกรมได้ •Portability–เนื่องจาก UNIX สามารถนำไปใช้กับเครื่องแบบต่างๆ ได้มากมาย โปรแกรมที่ใช้งานบน UNIX จะสามารถนำไปใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน•Flexibility–UNIX มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถนำไปใช้กับงานเล็กๆ หรืองานใหญ่ๆ ก็ได้ •Power–สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ดี และมีความสามารถในด้านต่างๆ มากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ•Multi-user & multitasking–สามารถมีผู้ใช้งานได้ทีละหลายๆคน และทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกัน•Elegance–หลักการทำงานของส่วนต่างๆ จะเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อผู้ใช้ทำงานส่วนหนึ่งได้ ก็จะเรียนรู้และใช้งานส่วนอื่นๆ ได้ง่าย •Network Orientation–UNIX เป็นระบบปฏิบัติการที่สนับสนุนการใช้งานเครือข่าย โดยเฉพาะเครือข่าย TCP/IP ซึ่งใช้ในระบบ Internet
http://www.compsci.buu.ac.th/~jakkaman/C_Programming/week01(18%20June%2001)/Unix.ppt

3.โครงสร้าง UNIX
โครงสร้างของระบบปฏิบัติการ Unix นั้น สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระดับด้วยกัน คือ1.ฮาร์ดแวร์ ทุกคนก็คงรู้จักกันแล้วว่ามันคือ อุปกรณ์ที่สามารถจับต้องได้นั่นเอง2.ยูนิกซ์ เคอเนล จะทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานทั้งหมดของระบบ ได้แก่ การจัดสรรทรัพยากร การจัดการกับข้อมูลต่างๆ ซึ่งส่วนประกอบตัวนี้จะขึ้นอยู่กับฮาร์แวร์ หากมีการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์ เคอเนลก็จะเปลี่ยนแปลงด้วยค่ะ3.เซลล์ เป็นตัวกลางระหว่างคอมพิวเตอร์และผู้ใช้ คือ นำคำสั่งจากผู้ใช้ไปแปลเป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้ เรียกว่า command interpreter เซลล์ที่ใช้งานกันก็มีหลายแบบ แต่ที่เป็นที่นิยม ได้แก่>Bourne shell (sh) เป็นเซลล์ต้นแบบของทุกเซลล์>C shell (csh) พัฒนาหลังจาก Bourne shell แต่สามารถเก็บข้อมูลคำสั่งที่เคยใช้ได้>Korn shell (ksh) เป็นเซลล์ที่นำคุณสมบัติเด่นของ Bourne shell และ C shell มารวมกัน>Bourne again shell (bash) มีลักษณะคล้าย Korn shell และสร้างขึ้นมาให้มีการใช้ฟรี ซึ่งระบบปฏิบัติการ Linux ก็นำมาใช้ด้วยเช่นกัน4.โปรแกรมประยุกต์ โปรแกรมที่ใช้งานเพิ่มเติม
http://learners.in.th/blog/os-bow/2990

4.Shell UNIX
Shel คือโปรแกรมโปรแกรมหนึ่งบน unix ที่ทำหน้าที่ interface ระหว่าง user กับ unix(kernel) user จะสามารถสั่งงาน unix ได้โดยผ่าน shell เท่านั้นไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ทางตรงก็คือ user สั่งงาน shell ให้ไปสั่งงาน kernel เลย เช่น internal command ส่วนทางอ้อมคือ user สั่งงานให้ shell ไป execute application ให้ไปสั่งงาน kernel อีกทีหนึ่ง โปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็น shell มีอยู่หลายตัว แต่ที่นิยมใช้กันอยู่ใน ปัจจุบันมีดังต่อไปนี้Bourne shell (/bin/sh) เป็น shell ในยุคแรกๆ ที่มีใช้กันอย่างแพร่หลาย และเป็น starndard shell ที่มีใน unix ทุกตัว ทำให้สามารถย้าย shell script ที่เป็น bourne shell ไปยัง unix ระบบอื่นได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรเลย แต่มีข้อเสียคือขาด funciton ในการทำ job control จะมี default prompt เป็น "$"C shell (/bin/csh) เป็น shell ที่พัฒนาขึ้นมาหลังจาก bourne shell โดยมีโครงสร้างของ syntax และ control structures คล้ายกับภาษา C มี function การทำงานหลายอย่างที่ดีและสะดวกกว่า bourne shell เช่น มีความสามารถในการเรียกคำสั่งที่ใช้ไปแล้ว และเป็น shell ตัวแรกที่สามารถทำ jobs control ได้ แต่มีข้อเสียคือ ทำงานกับ shell script ของ bourne shell ไม่ได้ โดยปรกติ default prompt จะเป็น "%"Korn shell (/bin/ksh) เป็น shell ที่พัฒนาขึ้นมาโดยสามารถทำงานใน function ของ bourne shell (super set ของ bourne shell) ได้ทุกอย่างและยังเพิ่มความสามารถในการทำ jobs control ขึ้นมา การ เขียน shell script ทำได้ง่ายและรัดกุมขึ้น สามารถเรียกคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้วมาแก้ไขแล้ว execute ไปใหม่ได้ สรุปว่าเป็น shell ที่รวมเอาข้อดีของ bourne shell และ c shell ไว้ด้วยกัน แต่ไม่ได้มีใน unix ทุกตัว korn shell จะมีขนาดใหญ่กว่า shell อื่น ๆ default prompt จะเป็น "$"Bourne Again shell (/usr/local/bin/bash หรือ /bin/bash) เป็นการนำเอา bourne shell กลับมาพัฒนาใหม่ ให้สามารถทำ command line editing ได้ และทำ jobs control ได้ และยังได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้พิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง bash shell นี้ไม่ใช่ standard unix shell แต่ปัจจุบันกลายเป็น default shell ของ linux จะมี default prompt เป็น $
http://tulip.bu.ac.th/~nattakorn.c/shell_env.php


5.ระบบไฟล์และไดเร็กทอรี UNIX
UNIX มองทุกอย่างเป็นไฟล์หมด แม้แต่หน่วยความจำ (/dev/mem) ซีดีรอม (/dev/cdrom) เม้าส์ (dev/mouse) โมเด็ม (/dev/modem) ระบบไฟล์และไดเรคทอรีบนUNIX มีโครงสร้างแบบต้นไม้ (tree structure) โดยไดเรคทอรีนอกสุด คือ ไดเรคทอรีราก (root directory) ใช้ / เป็นตัวแทนครับ ซึ่งก็จะมีไดเรคทอรีย่อยแตกแขนง ออกไปอีกเช่น/usr /local /lib /etc /binในแต่ละไดเรคทอรีบรรจุไฟล์และไดเรคทอรีย่อยลงไปอีกเช่นใน /usr จะมี local binชื่อไดเรคทอรีแบบนี้จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อ เรารู้ว่าไดเรคทอรีนอกก่อนคืออะไร วิธีเรียกชื่อแบบนี้ถูกเรียกว่า relative pathname แต่ถ้าหากเราใช้ /usr/local หรือ /usr/bin แทน local หรือ bin เราก็จะทราบโครงสร้าง tree structure ที่แท้จริงของไดเรคทอรีนี้ วิธีการเรียกแบบนี้เรียก absolute pathname ไดเรคทอรีที่ผู้ใช้ล็อกอินเข้าไปเรียกว่า home directory ซึ่งก็ขึ้นกับผู้บริหารระบบว่าจะให้ไปอยู่ทีไหน
http://wiki.nectec.or.th/ntl/Main/Unix-doc